เมื่อคุณเป็นมือใหม่ต้องการจะนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ แต่ยังไม่มีความรู้ในเรื่องการนำเข้า แนะนำให้สั่งซื้อสินค้าโดยขอให้ผู้ขาย เสนอขายในราคาเทอม CIF BANGKOK (ให้ผู้ขายต้นทางจ่ายค่าเฟรทและค่าประกันภัยโดยรวมอยู่ในราคาสินค้าแล้ว ) ผู้ขายในต่างประเทศจะเป็นผู้หาสายเรือและนำสินค้าบรรทุกลงเรือหรือเครื่องบิน จากประเทศผู้ขายส่งมาถึงที่ท่าเรือเช่น ท่าเรือคลองเตย หรือ สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อสินค้าของคุณมาถึงไทย จะมีค่าใช้จ่ายเพื่อนำสินค้าออกจากท่าเรือ ดังนี้
-ถ้าเริ่มนำเข้าครั้งแรกต้องไปขึ้นทะเบียนผู้นำเข้า-ส่งออกในระบบ PAPERLESS ของศุลกากรก่อน
-สินค้าของคุณเป็น ของต้องห้าม หรื่อ ของต้องกำกัด การนำเข้าหรือไม่ ถ้าเป็นของต้องกำกัด ต้องดำเนินการขออนุญาตให้เสร็จก่อนสินค้ามาถึงไทย
ถ้าสินค้าของคุณไม่เป็น ของต้องห้าม ต้องกำกัด จะมีค่าใช้จ่าย ประมาณนี้
1.ค่าภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าทั่วๆไปหรือสินค้า พวกวัตถุดิบธรรมดา
1.1 วิธีคิดภาษีนำเข้าส่วนใหญ่คือ (ราคานำเข้าตาม INVOICE x อัตราแลกเปลียน) x อัตราภาษี + ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 %
1.2 ถ้าสินค้าของคุณได้รับส่วนลดเช่น BOI, FZ, EPZ, คลังทัณฑ์บน, FORM A, E, D ส่วนใหญ่ไม่เสียภาษีนำเข้า)
2.ค่ารับ D/O คือ ค่าดำเนินการ นำตู้สินค้ามาลงไว้ที่ท่าเรือ, ค่านำสินค้าเข้าโกดังพักสินค้าและออกเอกสารรับรองว่าคุณเป็นผู้ที่มีสิทธิ์รับสินค้าได้ ของบริษัทตัวแทนเรือ หรือ สายการบิน
2.1 ทางเรือ
2.1.1 ตู้20ฟุต (ตู้สั้น) ประมาณ 4,000 -6,000บาทขึ้นไปเป็นอย่างน้อย
2.1.2 ตู้40ฟุต (ตู้ยาว) ประมาณ 5,000-7,000บาท ขึ้นไปเป็นอย่างน้อย
2.1.3 LCL (ไม่เต็มตู้) เริ่มต้นจำนวนสินค้า 1 CBM จะอยู่ประมาณ 4,500 – 7,000 บาท ส่วนที่เกิน ประมาณ CBM ละประมาณ 1,500 บาท แต่ละบริษัทไม่เท่ากัน ราคาอยู่ที่การต่อรองกันเอง)
2.2 ทางอากาศ มีค่ารับ D/O ประมาณ 300-1,000 บาท ขึ้นไป (แต่ละบริษัทไม่เท่ากัน)
3.ค่าภาระท่าเรือ สินค้าอยู่ในท่าเรือจะมีค่าธรรมเนียมและภาระท่าเรือเกิดขึ้น
3.1 ค่าธรรมเนียม, ค่าเก็บรักษาสินค้าของการท่าเรือ เช่นท่าเรือคลองเตย FCL, LCL
4.ค่ารถขนสินค้าจากท่าเรือ
4.1ส่งไปที่ บ้าน หรือ โรงงาน ของคุณ (บริษัทรถขนส่งจะคิดตามระยะทาง+น้ำหนัก)
5.ค่าธรรมเนียมศุลกากร
5.1 กรมศุลกากรจะเก็บค่าธรรมเนียมใบขนละ 200 บาท
6. ค่าบริการของชิปปิ้ง
– การบริหารจัดการตั้งแต่ก่อนสินค้าจะมาถึงประเทศไทยจนกระทั่งสินค้าไปถึงหน้าบ้านหรือโรงงานของคุณ ต้องคุยในเรื่องรายละเอียดความยากง่าย ของแต่ละประเภท ชนิด จำนวน ของสินค้าที่นำเข้า มีข้อมูลแล้วจึงสามารถแจ้งราคาได้ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ถ้ามี
7.ถ้าสินค้าเป็นของต้องมีใบอนุญาติ
– จะมีค่าใบอนุญาติเช่น อย. , วัตถุอันตราย, ป.2, เครื่องมือแพทย์ ฯลฯ
8.ค่าล่วงเวลา ทั้งของศุลกากรและท่าเรือ
– ศุลกากรต้องขอก่อน 16.00 ถ้าขอหลัง16.30 จะต้องเสียค่า O/T แบบน๊อกดอร์
9.ค่าคืนตู้ (ยกตู้สินค้าคืนท่าเรือ) ถ้าเป็น LCL ไม่มีส่วนนี้
– แต่ละลานค่าคืนตู้ไม่เท่ากัน และ มีหลายลานบังคับให้ต้องเสียค่าล้างตู้ด้วย 300บาท – 1,200บาท ถ้าต้องล้างแบบพิเศษก็จะแพงขึ้นอีก
10.ค่าคืนตู้ล่าช้า, ค่าล้างตู้ ถ้าเป็น LCL ไม่มีส่วนนี้
– ยิ่งคืนช้าจะมีค่าปรับมากขึ้นทวีคูณ
11.ค่ายกสินค้าลงจากรถเข้าบ้านหรือโรงงานของคุณ
– เช่นค่ารถยก, กรรมกร, เครื่องมือ และอื่นๆ
สอบถามปัญหาของการนำเข้าและส่งออกสินค้า สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
033-005974
Line : @gfreight
Email : [email protected]
https://www.goodfreight-th.com
เรายินดีที่จะให้คำปรึกษาบริการตอบปัญหาต่างๆ